1. กินข้าวเร็ว
จนแทบไม่เสียเวลาเคี้ยวหรือเคี้ยวไม่ละเอียด
ทำให้ไม่รู้สึกอิ่ม เสี่ยงที่จะทานมากกว่าปริมาณที่ต้องการ
เพราะกระเพาะยังไม่ทันรับรู้ถึงความอิ่ม จึงคิดว่ายังรับอาหารได้อีก
ดังนั้นการทานแบบค่อยๆกินจะทำให้อิ่มเร็วขึ้น
และได้ปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับความหิว แถมยังรับรู้รสชาติอาหารได้ดีกว่าด้วย
2. เสียดายของ
พ่อแม่มักบอกเราแต่เด็กว่า จะต้องกินข้าวให้หมดจาน อย่าเหลือทิ้งไว้
สงสารชาวนา กว่าจะได้ข้าวเม็ดหนึ่งมาให้เรากิน
แม้จะอิ่มแล้วหลายคนก็ต้องกัดฟันกินให้หมด คำสอนนั้นเป็นสิ่งที่ดี
แต่สิ่งที่ควรทำควบคู่กันไป คือการคะเนปริมาณอาหารให้เหมาะสม ต้องรู้จักประเมินความอยากของตัวเอง
3. กินแก้เครียด
การระบายความเครียดด้วยการกินนั้นอาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเป็นโรคจิต
เสพติดการแก้เครียดด้วยการกิน ดังนั้นเมื่อเกิดความเครียดให้ลองหากิจกรรมอื่นๆ ทำ
เช่น ออกไปเดินในสวน ออกกำลังกาย พูดคุยกับคนรอบข้าง หรือถ้าหากอยากทานมากจริงๆ ให้เลือกทานผัก
ผลไม้ แทนอาหารที่มีพลังงานสูง
4. ให้รางวัลด้วยการกิน
เวลาดีใจหรือทำอะไรประสบความสำเร็จต้องมีการนัดฉลองกัน
เช่น กินฉลองสอบได้ กินฉลองได้ลูกค้าใหม่ กินฉลองวันเกิด หรือแม้แต่กินฉลองความโสด
ฯลฯ ลองเปลี่ยนวิธีการให้รางวัลเป็นของขวัญ ไปเที่ยว
หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ต้องมาโยงกับการกิน เพราะการฉลองแต่ละครั้งจะเต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มมากมาย
และทุกคนมักจะคิดว่านานๆ ที ไม่เป็นไร
ทั้งที่เดือนทั้งเดือนอาจมีงานฉลองแบบเดียวกันที่คุณปฏิเสธไม่ได้อีกหลายงาน
5. กินอาหารคาวเสร็จต้องตามด้วยของหวาน
นิสัยที่กำลังกระจายในคนส่วนใหญ่เพื่อให้ครบสูตร
นานๆ ไปทีไม่มีปัญหา หรือถ้าดูแลสุขภาพร่างกายดีก็ไม่ว่ากัน
เเต่ถ้ากินของหวานอย่างต่อเนื่องหรือติดเป็นนิสัยไปแล้วล่ะก็
อยากให้ลองเปลี่ยนของหวานเป็นผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม
หรือผลไม้ที่หวานน้อยๆ จะดีกว่า
6. ต้องกินให้คุ้ม ในกระแสบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม
ที่เข้าไปอยู่ในสายเลือดของคนไทยจนติดนิสัย
ต้องไปทานกันบ่อยๆ ซึ่งการทานบุฟเฟ่ต์แต่ละครั้งอาจได้รับพลังงานหลายพันแคลอรี
โดยเฉพาะถ้าตั้งใจไปทานแบบเอาให้คุ้มกับเงินที่จ่ายไป
บางคนอิ่มพุงกางและท้องอืดไปหลายชั่วโมง จงจำไว้ว่าสิ่งที่เหลือคือไขมัน
และการทานอาหารมากเกินไป จะทำให้กระเพาะอาหารและระบบย่อยทำงานหนักเกินไป
ทางที่ดีกินบุฟเฟ่ต์ครั้งต่อไปขอให้ทานเเค่พออิ่ม และเลือกอาหารที่จะทาน
อย่าไปเสียดายเงิน เพราะถ้าเกิดป่วยขึ้นมา
เงินที่เอามารักษาอาจมากกว่าราคาบุฟเฟ่ต์ไม่รู้กี่เท่า
7. ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
ข้อนี้สำหรับคนที่เผลอกินจนอ้วนแล้ว
แต่พอไปเข้าโปรแกรมลดน้ำหนัก เจอว่ามันลดช้าก็ท้อใจ
หันกลับไปอยู่กับนิสัยการกินแบบเดิมอีก บางคนถึงขั้นยอมรับว่า
ความอ้วนยังไงก็ต้องอยู่ติดตัวไปทั้งชีวิต อยากจะบอกว่า
ยอมแพ้วันนี้ก็ต้องแพ้ไปตลอดชีวิต แต่ถ้าตั้งใจสู้เราก็มีหวังเอาชนะได้
8. ออกกำลังกายแล้วกินเยอะขึ้น
นิสัยแบบนี้ทำให้การลดน้ำหนักพังไปหลายรายแล้ว
การออกกำลังกายหนักแล้วชะล่าใจกลับมาทานหนัก เพราะคิดว่าไม่เป็นไรเอาออกได้
เป็นความคิดที่ผิดมาก ถ้าหากต้องการลดน้ำหนัก
คุณต้องดูแลเรื่องอาหารการกินให้เหมาะสม เพื่อให้ได้พลังงานที่เหมาะสม
และทำให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จเร็วขึ้น ถ้าออกกำลังกายแล้วทานเยอะ
พลังงานที่ได้รับอาจมากเกินไป หรือเท่ากับปริมาณการออกกำลังกาย
ทำให้ดูเหมือนไม่มีความก้าวหน้า ทำให้ท้อใจและเลิกไปในที่สุด
ใน
8 ข้อนี้คุณมีนิสัยใดบ้างหากมีก็ควรแก้ไข ค่อยๆฝึกไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ติดเป็นนิสัยไปเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น