ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน
1.
ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
วัยนี้ร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยให้แคลเซียมมาจับที่เนื้อกระดูกลดลง
2. การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องได้แก่
>
การดื่มน้ำอัดลม กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
มากเกินไป
> การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนมากเกินไป
> การรับประทานอาหารรสเค็มจัด
> การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนมากเกินไป
> การรับประทานอาหารรสเค็มจัด
3.
คนผอม
มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าคนอ้วน
4. การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
5. ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคโลหิตจาง โรคความดันโลหิตสูง
6. ผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีการลงน้ำหนักไปที่กระดูก เช่น การวิ่ง เล่นฟุตบอล เล่นบาสเก็ตบอล เป็นต้น
7. กรรมพันธุ์ ผู้ที่คนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุนก็จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น
การป้องกันโรคกระดูกพรุน
กระดูกพรุนคือการที่กระดูกมีความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือต้องสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรงตั้งแต่อายุน้อยกว่า
30
ปี ดังนี้
1. การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง โดยเฉพาะในเด็ก หญิงตั้งครรภ์ หญิงที่ให้นมบุตร ชายหญิงในวัยทอง อาหารที่มีแคลเซียมสูง ได้แก่ นม ไข่ ผักใบเขียว ผลไม้ ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว เต้าหู้
1. การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง โดยเฉพาะในเด็ก หญิงตั้งครรภ์ หญิงที่ให้นมบุตร ชายหญิงในวัยทอง อาหารที่มีแคลเซียมสูง ได้แก่ นม ไข่ ผักใบเขียว ผลไม้ ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว เต้าหู้
2. ทานวิตามินดีให้เพียงพอ เนื่องจากวิตามินดีจะเป็นตัวช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งร่างกายเราสามารถสังเคราะห์วิตามิน D ได้จากแสงอาทิตย์
3. หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานและเค็มจัด เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
5. หลีกเลี่ยงการทำให้ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เพราะจะทำให้กระดูกพรุนได้ง่ายกว่าปกติ
6. ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 15 – 20 นาทีเป็นประจำทุกวัน ซึ่งจะช่วยให้กระดูกแข็งแรงและเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก เช่น การเดิน การวิ่ง กระโดดเชือก ยกน้ำหนัก เป็นต้น
รู้วิธีง่ายๆกันไปแล้วอย่าลืมนำไปปฏิบัติกันนะครับ
J
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น